วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ไว้อาลัย แด่ย่าลำพอง ปลดรัมย์ (บุญรอดรัมย์)สกุลเดิม

ไว้อาลัย แด่ย่าลำพอง ปลดรัมย์  อายุ 74 ปี
 ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ ฉันก็ได้รู้จักย่าพอง มาตั้งแต่เด็ก  ย่าคนนี้เป็นน้องสาว ของย่าฉันอีกทีหนึ่ง คือว่าย่าฉันแท้ๆ เสียตั้งแต่ฉันยังไม่เกิด แต่ก็ได้อยู่กับย่าพองคนนี้มาตลอด อาจเป็นเพราะว่าบ้านเราอยู่ใกล้กันด้วย  อยู่ด้วยกันมาตั้ง 29 ปี เป็นความผูกพันมาก ตอนที่ฉันยังเด็ก แม่ไม่อยู่ไปทำธุระ ก็ฝากฉันไว้กับย่า ฉันร้องไห้ ย่าก็ให้กินนมเหี่ยวๆ นั่นแหล่ะ  ถึงฉันจะไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่ก็รู้สึกรักย่ามาก ขนาดวันแม่ แม่ยังพาไปไหว้ย่า ปีหน้านี้คงไม่มีย่าให้ไหว้อีกแล้ว งานสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะไปทำบุญ รับปริญญา งานหมั้น มาส่งเราเข้าทำงาน ไปทำบุญต่างๆ ก็ไปด้วยกันมาตลอดงานไปทำบุญตักบาตรเทโว ที่วัดพระพุทธบาทเขากระโดง งานรับปริญญาตรีของฉันที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
ส่งเราเข้าทำงานที่จังหวัดสุรินทร์    รับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นงานล่าสุดเลย ที่เราไปด้วยกัน เรายังนั่งใกล้กันเบาะเดียวกันเลย ย่าได้ไปเล่นน้ำทะเล คงสนุกน่าดู มีแต่รอยยิ้มของย่าที่ตราตรึงในใจของเรา
ช่วงสุดท้ายของชีวิตย่า ย่าเริ่มไม่สบายตั้งแต่ปี 2557  ซึ่งตอนนี้เราใกล้เรียนจบปริญญาโทแล้ว  ย่าบอกกับแม่ว่าอยากไปรับปริญญาโท เราก่อน แม่ก็บอกว่าไปซีจะเป็นอะไร ย่าคงรู้ตัวว่าอยู่ได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ วันที่ 21 ตุลาคม 2558 ก่อนที่ย่าจะเดินทางไปพบแพทย์ตามนัด เราก็ยังไปเยี่ยมย่าอยู่นะ คืนนั้นก็มีคนไปเยี่ยมหลายคนอยู่ เราก็ยังเอามะนาวให้ย่ากิน เพราะว่าย่าไอไง แล้วถามว่า พรุ่งนี้ไปหาหมอเหรอ เราคิดในใจคงรอคิวยาวแน่เลย ก็เลยถามว่าย่าอายุกี่ปี ย่ายังบอกว่าอายุ 74 ปี ย่าง 75 ปี  เราก็เลยบอกว่าออไม่ต้องรอคิว คือเราก็กลับไปทำธุระที่สุรินทร์กลับมาย่าไม่มีสติแล้ว เหมือนว่าอาการหนักมาก เจาะคอ นอนใส่ออกซิเจนอยู่ หมดแรงเลยเรา สงสารย่ามากคิดว่าคงเจ็บมาก และหลังจากนั้น ประมาณ 14.20 . วันที่ 25 ตุลาคม 2558 ย่าก็สิ้นลมหายใจ เป็นงานศพงานแรกที่เราได้อาบน้ำศพ เศร้าใจยิ่ง คิดถึงวันที่เราอยู่ด้วยกัน
ครอบครัวเราได้ทำดีกับย่าถึงวินาทีสุดท้าย แป๋วอยากบอกว่ารักย่าที่สุด ขอบคุณย่าที่ทำให้ช่วงเวลาที่เรามีกันอยู่ด้วยกันนั้นช่างมีความสุข ขอให้ย่าไปสู่สุขคตินะ ย่าจะอยู่ในใจเราตลอดไป





                   









         หาเสื้อใส่เองด้วย

 ย่าหาเสื้อให้ปู่ใส่ 




                                       เรียบร้อย ถ่ายรูปกับหลาน



                                                              เล่นน้ำทะเล บางแสนกัน



วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

เที่ยวเมืองสุรินทร์ กินอาหารราคาถูก


เดือนสิงหาคม เป็นเดือนของการทำรายได้ จาการขายครีมและสบู่โฮยอน ยอมรับว่าขายดีมากจนไม่มีเวลา อัพเดทข่าวสารต่างๆ เลย  พูดพร่ำมา ซะนาน  เอาแบบว่าการท่องเที่ยวหนึ่งวันในเมืองสุรินทร์แล้วกัน แต่ก็เที่ยวไม่หมดหรอกค่ะ ไปเที่ยวได้แค่บางส่วนค่ะ แต่คุ้มค่าสุดๆ รูปภาพอาจจะไม่สวยเท่าไหร่แต่ก็จะพยายามปรับปรุงนะจ๊ะ
จังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดที่น่าท่องเที่ยวมากจังหวัดหนึ่งในแถบอีสานใต้ วันนี้จะพา ไปเที่ยวในแถบอำเภอเมืองสุรินทร์แล้วกัน จากคำขวัญจังหวัดสุรินทร์  สุรินทร์ ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ปะคำสวย ร่ำรวยปราสาท  ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรม  
จริงๆ แล้ว เรายังเที่ยวไม่ทั่วเลยนะ ในอำเภอเมือง เอามาบางส่วนแล้วกัน ที่เราได้ไปเที่ยวมาแล้วกันนะ


ช่วงวันหยุดเสาร์แรกของเดือน จะมีผ้าไหมมาขาย  สิ่งที่เราชอบสุดๆคือ ตลาดนัดวันเสาร์ บริเวณหน้าอำเภอ มีกันตรึมพื้นบ้านมาบรรเลง ให้ฟัง ยังมีผ้าไหม ข้าวสารต่างๆมาขาย ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวลืมผัว ข้าวกล้อง และแน่นอนว่าขายถูกกว่าท้องตลาดแน่นอนค่ะ  คือผ้าไหมเป็นผืนแบบ สวยๆ เลยนะมีแบบที่ตัดสำเร็จแล้ว ชุดละ 1000 บาทเป็นอะไร ที่ถูกมาก ถ้าเราเอาไปตัดเองไม่ได้นะค่ะ ผ้าคลุมที่นอน ทำจากไหม 15000 ความสวยไม่ต้องพูดถึง หอมมากด้วยอยากเก็บเงินไว้ซื้อ เก็บไว้ใช้ได้ กว่าจะทอได้แต่ละผืน ให้เราทำเองทำไม่ได้หรอกค่ะ หาเงินไปซื้อง่ายกว่า 555  ผ้าสไบ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าถุง ผ้าผืนไว้ตัดชุด คือของแต่ละชิ้น งามตามากมันสวยงามไปหมดตอนเย็นก็อย่าลืมแวะไปซื้อของที่ตลาดน้อย เพราะว่ามีของกิน ราคาถูกมากๆ น้ำเต้าหู้ถุงละ 5 บาทเองนะ แล้วก็เต้าฮวยน้ำขิง 5 บาท น่าอร่อยสุดๆ
             


ผ้าไหม  ผ้าสไบ ผ้าถุง สวยมากๆ


                     อาหารที่ถูกที่สุดในอำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ แล้วกันนะค่ะ คือ รุ่นพี่ชวนไปกินมา รสชาดใช้ได้ และราคา 20 บาท ถูกมากๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีที่ไหนเขาทำแบบนี้หรอก
ร้านชื่อว่าบะหมี่ โคราช จังหวัดสุรินทร์ แถวๆ หลังสถานีรถไฟ ร้านเปิด 8.00 -14.00 น. ร้านนี้คือสะอาดคนกินค่อนข้างเยอะด้วยนะค่ะ  หากมาเที่ยวที่สุรินทร์ ก็ลองแวะมาชิมกันได้ อิ่มท้องประหยัดงบด้วย
ถ้ามาจากบขส. ก็เดินมาทางทิศตะวันตก ตรงสี่แยกหลังร้านแก้ว เดินตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตร ไม่ไกลนะฉันเดินบ่อย เอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วกัน วันหลังเดี๋ยวจะมาอัพเดทใหม่


หน้าร้านหมี่โคราช

บรรยากาศในร้าน


เกี๊ยวทอดกรอบ


ข้าวมันไก่


ข้าวคลุกกะปิ


                                                                     
                                                                    ใกล้กับหลังสถานีรถไฟ






วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เที่ยวเกาะเสม็ด

ปกติในวันหยุดยาวๆ สำหรับเราก็คงจะหาที่เที่ยวกันแบบใกล้กรุงเทพ
สบายๆ ไม่เบื่อไม่เหงา แบบประหยัดสุดๆแล้ว 
ฉันเคยใช้ชีวิตที่เกาะเสม็ดมาก่อน  เคยได้ไปฝึกงานที่เกาะเสม็ดก็พอจะรู้ที่เที่ยวบ้าง
การเดินทางมาจากกรุงเทพ จะมีรถประจำทางสายหนึ่งที่มาถึงท่าเรือเพเลยแต่ จำไม่ได้ว่าบริษัทอะไร  หรือว่าเราจะไปลงที่ บขส. ระยอง แล้วต่อรถสองแถวมาประมาณ คนละ 20-30 บาทก็มาถึงท่าเรือเพแล้ว                                                                                                                                                                                                                                 ท่าเรือเพ       
พอมาถึงที่ท่าเรือนะ จะมีท่าเรือที่เป็นของเอกชนเยอะแยะมากมาย ส่วนใหญ่เขาจะไปจอดที่
รีสอร์ทของเขาเอง เราต้องไปที่ท่าเรือเพ ค่านั่งเรือข้ามไปเกาะคนละ 50 บาทใช้เวลา 30 นาทีก็ถึง


                                                          







ใกล้ถึงเเกาะกันแล้ว
ถ้าถึงแล้ว เราไปเช่ามอเตอร์ไซด์เลยค่ะ เช่าแถวๆ ท่าเรือนั่นแหล่ะ จะสะดวกในการเดินทางดี ประมาณ 300-1000 บาท แนะนำให้เช่ารถมอเตอร์ไซด์ที่เป็นเกียร์ธรรมดานะค่ะ Automatic ขับยากมาก เพราะเราต้องใช้ในการเดินทางแบบขรุขระ ทางชัน การควบคุมจะไม่ดีเท่าใช้เกียร์ธรรมดา (วันนั้นเราเช่า 300) มีกลยุทธ์เล็กน้อยในการต่อรอง ก็บอกว่าเคยเช่าแค่สามร้อยเอง เดี๋ยวไปเช่าร้านอื่นก็ได้ เพราะว่ามีร้านติดกันแถวนั้นเยอะมาก ถ้าคิดจะเที่ยวแถวๆหาดทรายแก้วแนะนำ เดินไปดีกว่า โรงแรมแถวๆหาดทรายแก้วเยอะมาก  หลังจากที่เช่ารถได้ก็ขับรถไปหาโรงแรมที่ถูกใจ ถูกราคา แถวๆนั้น ก็มีห้อง 400-800 บาท        
                                                    
                                                                       



                                                                       

                                                                        หาดทรายแก้ว                       

                                                           
                                 







  ถ่ายรูปกับท้ายเกาะ                         

                                                         
                                         
                                                 ช่วงกลางๆเกาะ แวะถ่ายข้างๆทาง

                                             
                                                          น้ำใสมากช่วงท้ายเกาะ

                                                               
                                                             


                                                                         ดำน้ำแถวป่าไม้




แนะ นำไปดำน้ำดูปะการังท้ายเกาะตรงนิมมานรดี รีสอร์ท ค่าเช่า Snorkel ประมาณ 150 บาท   รึว่าจะไปเช่าที่ป่าไม่ท้ายเกาะก็ได้ เวลาที่น้ำลงจะดีมาก น้ำจะตื้นมองเห็นปะการังชัด ระวังโดนหอยเม่นตำด้วย ปะการังอาจจะไม่ค่อยสวยแต่มันก็โอเค ที่ได้เห็นนะ ขับเที่ยวตั้งแต่เช้าถึงเย็นพอดี ตอนค่ำๆก็ไปรับประทานอาหารที่หาดทรายแก้วก็ได้ รึว่าไปสั่งเบียร์นั่งกินเย็นๆก็ได้ดูโชว์พ่นไฟ กระโดดเชือกไฟ ประมาณนี้จะมีคนเข้าไปกระโดดเยอะมากพอสมควร ท้าทายดี  สำหรับคนอยากเที่ยวตอนกลางคืนเราก็ใช้รถมอเตอร์ไซด์ขับเที่ยวไปเรื่อยๆ สนุกดี
ตอนเช้าก็นำรถไปคืนแล้วกลับบ้าน  อย่าลืมแวะซื้อของฝากที่ตลาดบ้านเพนะค่ะ คือเป็นตลาดที่ของราคาถูก คุณภาพดีอีกที่หนึ่ง ของน่ากินมาก เสียดายแบตหมดก่อน ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู



วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นิสิตปริญญาโท ปี 2


มาตอนนี้ ปีการศึกษา 2557 
เพื่อนๆ ก็เริ่มสนิทกัน เข้ากันได้ดี การเรียนก็เริ่มเข้มข้นขึ้นทุกวัน เรานอนตีสองทุกวัน
วันจันทร์ -อังคารจะเป็นวันหยุดที่เรา ตื่นสายได้ หรือว่าเราจะได้เรียนชดเชย วันพุธ-วันศุกร์      จะเรียนถึงสองทุ่มค่ะ 
วันเสาร์-อาทิตย์    เรียนจากแปดโมงเช้า ถึง หกโมงเย็น
ไม่ต้องห่วงว่าจะมีการหยุด เรียนไม่มีหรอกค่ะ ไม่ว่าจะสงกรานต์ หรืออะไร ก็ตาม การหยุดเรียนต้องได้เรียนชดเชย 
ปีนี้มีกิจกรรม เหมือนเดิมนะค่ะ  
การฟังสัมมนาวิชาการจาก ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
ขอบคุณคณาจาย์ทุกท่านที่พร่พสอนพวกเรามา ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคน สำหรับการแบ่งปัน และน้ำใจที่มอบให้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างข้อสอบ การนำเสนองานต่างๆ  การทำงานกลุ่ม ขอบคุณ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่ทำให้เราได้เจอกัน 

ถ่ายรูปกับ ดร.สถาพร พฤฑฒิกุล


รูปนี้เป็นช่วงปิดเทอม เดือนตุลาคม ที่เราได้ไปเรียนกับเพื่อนๆ


ร่วมมือร่วมใจ


                                                         
                                                                   
                                                        ถ่ายรูปกับรศ.ดร วชิระ ชาวหา


                                                     ถ่ายรูปกับดร.พักตร์วิภา โพธิ์ศรี

                                                           
                                                                    กับเพื่อนๆ สีเขียวค่ะ

                                                                 
                                                               กองเชียร์สีเขียวค่ะ

งานเลี้ยงธีมงานวัด

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นักศึกษาปริญญาโท ปี 1


กิจกรรมที่ทำตอนเรียนกิจกรรมที่ทำต่างๆ เยอะมาก แต่ก็สนุกมากเลยนะ เป็นประสบการณ์ที่การเรียนที่น่าตื่นเต้น กิจกรรมแรกที่ทำหลังจากสงกรานต์จะมีงานบริหารสัมพันธ์ เราชาวบริหาร มาจากสี่ศูนย์การศึกษา จากสระแก้ว ระยอง จันทบุรี บางแสน มารวมตัวกันที่บางแสนในตอนเช้าก็มีการ ทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้งต่างๆ ตั้งแต่ หกโมงเช้า




หลังจากที่ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งเสร็จก็รับประทานอาหารเช้า โดยทางมหาลัย มีข้าวต้มปลาอร่อยๆ เลี้ยง เสียดายที่ไม่มีรูปภาพ 




                    หลังจากการรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็มานั่งรอ นั่งฟังการสัมมนา 


ศาสตราจารย์ดร.วิจิตร ศรีสะอ้าน



 หลังจากฟังสัมมนาช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็เป็นการแข่งขันกีฬา มีหลากหลายสีกันเลยที่เดียว

แต่จะบอกว่าปีนี้สีชมพูได้แชมป์ค่ะ ได้ถ้วยรางวัลมาห้าใบ(เก่งไหมละ)




กิจกรรมกีฬาสีช่วงบ่ายเสร็จแล้วนะค่ะ เราก็มีงานฉลองต่อ อาหารตามที่เห็นแหล่ะ เป็นถ้วยโฟม 
คาใช้จ่ายทั้งหมดนี้เท่าไหร่รู้ไหมค่ะประมาณ 800 บาท แต่คุ้มค่าสุดๆ 




วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ครูบ้านนอกเข้าเมืองชล


จากที่ได้เลือกเรียนที่ มอ บูรพาแล้ว หลังจากการปิดเทอม ก็เตรียมตัวเรียนซิคะ เพราะว่าเราไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เราก็ต้องจองตั๋วรถนครชัยแอร์จากบุรีรัมย์ มา ชลบุรี เลือกรอบที่มาถึงชลบุรี เช้าๆหน่อย จะได้ต่อรถไปที่มอบูรพาต่อเลยการเดินทางค่อนข้างทุลักทุเลหน่อย แต่ฉันก็สู้เต็มที่เพื่ออนาคตของตัวเอง มีคนลำบากกว่าเรามากเป็นไหน ๆ
ครูบ้านนอกคนนี้จะไม่ยอมแพ้เพื่อการศึกษาไทย ฉันถือกระเป๋ามาสามใบ เป้หนึ่งใบใส่เสื้อผ้าที่มาเรียน กระเป๋าลากหนึ่งใบใส่หนังสือเรียน  กระเป๋าถืออีกหนึ่งใบใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (หนักมาก) เป็นคนที่สู้ชีวิตมากคนหนึ่ง ไม่ยอมนั่งรถแท็กซี่

ถือกระเป๋าสามใบลงจากรถนครชัยแอร์ และ ต่อด้วยรถโดยสารสายสีฟ้า ลงตรงเฉลิมไทยแล้วก็มีรถต่อไปที่บางแสน คันสีส้มๆ เราก็ลงแค่ที่ตลาดหนองมน แล้วต่อวินมอเตอร์ไซด์ไปที่หอพักเลย เพราะค่ารถเท่ากันแหล่ะ ต่างกันไม่กี่บาท เราโทรจองห้องไว้ตั้งแต่นานแล้ว เพราะเคยพักอยู่ตอน ปี2556 เรามาถึงหอพักตอนประมาณ 7 โมงเช้าโทรไปปลุกเจ้าของหอให้มาเปิดห้องให้ เขาก็โอเคนะ เขารีบมาเปิด แต่ยังไม่ย้ายห้องเก็บของอะไรเลย กว่าจะทำความสะอาดเก็บของเสร็จก็ประมาณ 10 โมงกว่า เราก็นั่งเล่น นั่งทำงานรอ เจ้าของหอ ตั้งนาน( เจ้าของหอเป็นคนใจดีมากๆ) ค่าห้องเช่าเรา 5500 ต่อเดือน รั้วติดมหาลัย  สะอาด เงียบสงบ สามารถไปวิ่งออกกำลังกายได้ เพราะอยู่ด้านหลังของมหาลัย สะดวกสบาย  ไว้วันหลังจะกลับมาเล่าใหม่คะ